แปดขุนเขา
แปดขุนเขา พูดถึงมิตรภาพระหว่างเด็กชายสองคนที่ก่อเกิดบนภูเขาแห่งหนึ่งในเทือกเขาแอลป์ ทั้งคู่เติบโตขึ้นพร้อมกับความผูกพันที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง แม้ว่าคนหนึ่งจะไม่เคยจากขุนเขาบ้านเกิดไปไหนเลย ส่วนอีกคนเดินทางท่องโลกด้วยเหตุผลที่เขาตอบคนอื่นว่า ปรารถนาจะเห็นยอดเขาสวยๆ ในที่ไกลๆ ชายชราชาวเนปาลคนหนึ่งจึงเล่าให้เขาฟังว่า มีแปดขุนเขาล้อมรอบเขาพระสุเมรุ และถามว่า ระหว่างคนที่ท่องไปทั้งแปดขุนเขา กับคนที่ไปถึงยอดเขาพระสุเมรุ ใครได้เรียนรู้มากกว่ากัน คำตอบของเขาอยู่ในนวนิยายเรื่องนี้ แต่นั่นอาจไม่ใช่สารัตถะของเรื่อง
“อาจกล่าวได้ว่า ผมเริ่มเขียนเรื่องนี้ตั้งแต่เด็กๆ เพราะเรื่องราวนี้เป็นของผมเช่นเดียวกับความทรงจำของผม หลายปีมานี้ เวลามีคนถามว่า มันเล่าถึงอะไร ผมตอบเสมอว่า เล่าถึงเพื่อนสองคนกับภูเขา” — เปาโล คนเญตติ
Le otto montagne (แปดขุนเขา) ตีพิมพ์ครั้งแรก ปี 2016 ได้รับรางวัล Premio Strega 2017 ของอิตาลี และรางวัล Prix Médicis étranger 2017 ของฝรั่งเศส แปลและตีพิมพ์ใน 39 ประเทศ
Reviews
“ผมอ่านหนังสือที่ดีและวิเศษจนจบไปอีกเล่มหนึ่งเมื่อคืนตอนตีสาม อ่านแล้วก็รู้สึกขอบคุณตัวหนังสือทุกตัวที่เขาเขียนออกมาอย่างเรียบง่ายและเล่าเรื่องได้อย่างงดงาม ทั้งหมดเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูก ระหว่างครอบครัว และกับเพื่อนคนหนึ่งซึ่งอยู่ติดที่ไม่คิดจะออกไปไหนไกลกว่าหมู่บ้านบนภูเขาของตัวเองในหมู่บ้านกรานา
หนังสือที่เราไม่ได้บอกว่ามันดีแต่เพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นหนังสือวิเศษมีพลานุภาพที่ทำให้เรารู้สึกสงบ ดิ่งลึก ครุ่นคิดถึงชีวิตทั้งที่ผ่านไปแล้ว หรือกำลังจะมาถึง และยังทำให้การมองโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างไม่รู้ตัว”
— ขจรฤทธิ์ รักษา
“เป็นเรื่องเล่าของมิตรภาพระหว่างผู้ชาย และก็ความสัมพันธ์กับภูเขา กระนั้นมันก็แตะจิตวิญญาณเราและความสัมพันธ์ที่เรามีกับภูเขา
ในขณะที่เรามีอารมณ์ร่วมและแชร์หลายช่วงขณะกับภูเขาของทุกตัวละคร แต่เราว่าเราคล้ายแม่ของผู้เขียนที่สุด เพียงแต่ระดับความสูงที่เราชอบที่สุดอยู่สูงขึ้นไปกว่าป่าที่แม่แกชอบ โซนของเราคือทุ่งดอกไม้อัลไพน์ โซนสูงสุดสุดท้ายที่ชีวิตโลกเบ่งบาน
โลกน้ำแข็งบนเขาสูงถัดขึ้นไปงดงามจับใจ แต่เราขออยู่กับพลังชีวิตของพันธ์ุพืช
ตอนนี้มันกลายเป็นหนังสือเล่มโปรดที่สุดเล่มหนึ่งของเราแน่นอน”
— สรณรัชฎ์ กาญจนะวณิชย์
“เรื่องเล่าเรียบง่าย เนิบช้า ไม่มีส่วนใดหวือหวา ตลอดเนื้อหาราว 200 หน้า ฉากแทบทั้งเรื่องอยู่บนภูเขา
คนชอบปีนเขาอย่างผมจึงชอบเป็นพิเศษ แต่กับนักอ่านทั่วไปนี่คืองานเรียบ เงียบ ช้า ตลอดทั้งเรื่อง
ในตอนใกล้จบ ช่วงหนี่งผมก็น้ำตาคลอโดยไม่รู้ตัว ไม่ใช่งานที่อ่านแบบสนุก และไม่ได้ใส่ปรัชญาแบบโจ้งแจ้ง
มันขึ้นอยู่กับประสบการณ์ผู้อ่านว่าจะมองเรื่องราวนี้อย่างไร”
— ละเวง ปัญจสุนทร
“คุณไม่ต้องถามหรอกนะว่า ว่าร้องไห้ไหมเล่มนี้ ผมอาจจะบอกได้แค่ว่า ร้องเหอะ ถ้าหัวใจคุณไม่ใช่ธารน้ำแข็งในดินแดนที่มีแต่ฤดูหนาวตลอดปี”…อ่านต่อ
— เน็ต-นัฎฐกร ปาระชัย
“นี่คือหนังสือที่งดงามนุ่มนวล อ้อยอิ่ง และค้างคา เหมือนหิมะที่ค่อยๆ ร่วงหล่นบนภูเขาไกลโพ้น ไม่มีใครพบเห็น ไม่แสดงตัว ไม่โอ่อวดใดๆ นิ่งเงียบ และค่อยๆ ปล่อยให้รอยเท้าของเรื่องราวดำเนินไปช้าๆ กับภาษาที่งดงามจนแทบลืมหายใจ
สำหรับผม – นี่เป็นหนังสือที่งดงามที่สุดเล่มหนึ่งในชีวิตการอ่านหลังปี 2000 เลยทีเดียว”…อ่านต่อ
— โตมร ศุขปรีชา
“เหมือนที่ปิเอโตรในวัยเด็กมักจะรู้สึกว่า เขาอยากให้คืนวันบนภูเขายืดยาวออกไป เราเองก็อยากให้นิยายเรื่องนี้ยืดยาวออกไป อยากผูกพันและอยู่กับตัวละครไปอีกนานๆ ยิ่งใกล้จบยิ่งไม่อยากให้จบ อาจเหมือนการปีนเขาที่พอถึงจุดหนึ่งเราก็อาจจะชะลอฝีเท้าลงเพราะรู้ว่ายอดเขาอยู่ใกล้แค่เอื้อม
เรื่องเล่าเรียบง่าย แต่แม่นยำ ซื่อตรง และทรงพลัง เป็นงานเขียนประเภทที่หลังจากปล่อยให้ตกผลึกจนได้ที่แล้ว คงหยิบมาอ่านซ้ำอีกหลายๆ รอบเพื่อสำรวจความแวววาวในแง่มุมอื่นๆ ของมัน เหมือนที่ตัวละครในเรื่องนี้ไม่เคยหน่ายทึ่จะสำรวจแง่มุมใหม่ๆ ของภูเขาลูกเดิม”…อ่านต่อ
— Nitthita, Goodreads Reader
“บนยอดเขา บริเวณที่เวิ้งว้างวังเวง จุดที่บางครั้งความว่างเปล่ารอบกายทำให้เราถามตัวเองด้วยคำถามดูหมิ่นความพยายามว่าขึ้นมาเพื่ออะไร ความทรงจำที่ผ่านมาทั้งหมดบนเส้นทางอาจตอบเราว่าเพื่อการเรียนรู้ เราอาจคิดถึงประโยคที่ว่า ‘แล้วเราก็พูดกันว่า ใครได้เรียนรู้มากกว่ากัน คนที่ท่องไปบนแปดขุนเขา หรือคนที่ไปถึงยอดพระสุเมรุ'”…อ่านต่อ
— แมท ช่างสุพรรณ
“ผู้เขียนเลือกใช้คำมาอธิบายภาพฉากและบรรยากาศของธรรมชาติในแต่ละฤดูได้อย่างละเอียดลออ จินตนาการถึงแสงแดด หิมะ สายฝน ธารน้ำแข็ง โตรกผา หุบเหว โกรกธาร ทะเลสาบ ต้นไม้ใบหญ้า กลิ่นอายของฟาร์มปศุสัตว์ได้อย่างเห็นภาพกระจ่างแจ่มชัด ระหว่างบรรทัดยังซุกซ่อนปรัชญาคมคายและบทเรียนชีวิต เนื้อเรื่องก็เปี่ยมเสน่ห์ คละเคล้าด้วยความทรงจำที่ครบรส ทั้งสุข เศร้า เหงา ซึ้ง ชุบชูใจ และสะเทือนใจไปพร้อมๆ กัน
อ่านแล้วคิดถึงการเดินทางไป ‘อาบป่า’ ท่ามกลางธรรมชาติ บนภูเขาสูงห่างไกลผู้คน ในวันที่แสงแดดอุ่น อากาศสดชื่น ฟังเสียงน้ำไหลจากลำธาร สูดกลิ่นดินกลิ่นหญ้าใต้ท้องฟ้าใสกับใครสักคน
นี่คือหนังสืออีกเล่มที่คนรักภูเขาไม่ควรพลาด”…อ่านต่อ
— อินทรชัย พาณิชกุล
“หนังสือเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่าง พ่อกับลูกชาย มิตรภาพวัยเยาว์ และหุบเขาที่เป็นฉากหลังอันสลักสำคัญของเรื่องราวทั้งหมด ถ่ายทอดผ่านมุมมองของ ปิเอโตร ลูกชายคนเดียวของครอบครัวที่มีพ่อเป็นนักเคมีผู้เก็บเนื้อเก็บตัว และหลงรักภูเขาเป็นชีวิตจิตใจ ขณะที่แม่เป็นพยาบาล รักการอ่านหนังสือ ชื่นชอบการสนทนากับผู้คน และเพื่อนฝูง — เรื่องราวที่ดูเรียบง่าย ไม่มีอะไรหวือหวาน่าลุ้น แต่กลับเต็มไปด้วยความงดงาม สัจธรรม และธรรมชาติ”…อ่านต่อ
— เรื่องเล่าร้านหนังสือ
“ความสัมพันธ์ของพ่อลูก ความอบอุ่นจากลมใต้ปีกของผู้เป็นแม่ หรือกระทั่งตัวแปรสำคัญอย่างคนรัก ล้วนเป็นองค์ประกอบที่หลอมรวมจนเกิดเป็นนิยายขนาดสั้นเล่มนี้”…อ่านต่อ
— รัตนาวดี โสมพันธ์