จากดวงจันทร์
ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งบนเกาะซาร์ดิเนีย กลางทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ท่ามกลางหาดทรายขาวบริสุทธิ์และน้ำทะเลสีเขียวมรกต
กับเสียงของสงครามโลกครั้งที่สองที่ยังไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อใด หญิงสาวคนหนึ่งโหยหาความรักในนิยามของตนอย่างทุรนทุราย
ถึงขนาดจะยอมตายหากไม่ได้รู้จักความรักในชาตินี้ จนคนหาว่าเธอบ้า และ “มาจากดวงจันทร์”
จากดวงจันทร์ นวนิยายสดุดีความรัก จินตนาการ และการเขียน ตีพิมพ์ครั้งแรกปี 2006
ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติของอิตาลีหลายรางวัล แปลและตีพิมพ์ใน 29 ประเทศ
และในปี 2016 ผู้กำกับชาวฝรั่งเศสนำไปดัดแปลงสร้างเป็นภาพยนตร์ที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อ From the Land of the Moon
นำแสดงโดยดาราสาวแสนสวย มารียง โกตียาร์ (Marion Cotillard)
Reviews
“จาก 101 เล่มที่อ่านในปี 61 ชอบเล่มนี้ที่สุด โหยไห้ เจ็บปวด ร้าวรอน แต่ไม่เพ้อฟูมฟายเลย ไม่น่าเบื่อ พออ่านจบแล้วจึงพบว่า ทั้งหมดทั้งมวลที่อ่านมานั้นประกอบสร้างขึ้นด้วยความฟั่นเฟือนโดยแท้จริง”
— นฤพนธ์ สุดสวาท
“มหัศจรรย์จริงๆ อ่านตอนจบแล้วแทบร้องบราโวออกมาเลย สุดยอดค่ะ” …อ่านต่อ
— ชมัยภร บางคมบาง
“เรื่องราวเศร้าสวยเปี่ยมเสน่ห์จากเกาะซาร์ดีเนีย เป็นนวนิยายเกี่ยวกับครอบครัว ความรัก มองจากมุมของผู้หญิงที่ดีที่สุดเล่มหนึ่งในชีวิตการอ่าน”
— สฤณี อาชวานันทกุล
“งดงาม และงดงามอย่างที่สุด อ่านไปได้สักเจ็ดบท จึงรู้ว่าเรื่องนี้เป็นหนังที่เคยดูมาก่อน หนังหยาบและกระด้างกว่านี้ แม้ในหนังไม่มีฉากรักโลดโผนเหมือนหนังสือ แต่หนังสือฉายภาพนั้นอย่างสวยงาม ทั้งฉากและจิตวิญญาณแห่งยุคสมัย หนังชี้ชัดว่าเธอเป็นบ้าและเห็นภาพหลอน แต่งเรื่องหลอกตัวเองโดยความร่วมมือของสามี แต่หนังสือบอกว่าเธอเต็มไปด้วยจินตนาการ และมีหัวใจน่าโอบกอด ในหนัง สาวๆคงอยากได้ผู้ชายแบบสามีของเธอ แต่หนังสือไม่ชี้ชัดอะไร เราเป็นตัวละครสักตัวในเรื่องนี้”
— จเด็จ กำจรเดช
“จากดวงจันทร์ ร้อยเรียงเรื่องราวของบรรพชนรุ่นปู่ย่า ที่ต่างรับเอาบาดแผลจากสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเฉพาะย่าผู้เป็นที่รักของผู้เขียนชาวเกาะซาร์ดิเนีย
เรื่องรักของย่าทั้งโรแมนติกและร้าวราน จนกระทั่งผู้เขียนซึ่งเป็นหลาน ค้นพบเรื่องราวบางอย่างที่ประสานกันระหว่างความจริงและจินตนาการ ในผนังห้องนั่งเล่น” …อ่านต่อ
— สุภาสินี หารสุริ
“ข้อดีของนิยายดีๆ เล่มหนึ่ง มันมักทำให้เราฉงนฉงายไปกับความมหัศจรรย์ของความสัมพันธ์ระหว่างเรื่องจริงกับเรื่องแต่ง ตัวละครแอบย่องเข้าไปในประวัติศาสตร์ กระโดดโลดเต้นบนเก้าอี้ที่ครั้งหนึ่งบุคคลจริงเคยนั่ง ทบทับเป็นชั้นเป็นเชิงของเรื่องเล่า ไม่ใช่การป่นปี้ประวัติศาสตร์หรือป่าวประกาศว่า ความจริงตายแล้ว แต่เพื่อเพ่งพินิจมันอย่างรอบด้านขึ้น ทั้งประวัติศาสตร์และชีวิตที่แอบย่องเข้าไป” …อ่านต่อ
— วีรพงษ์ สุนทรฉัตราวัฒน์
“ให้ 5 ดาวเพราะเทคนิคการเล่าเรื่องที่ทำให้คนอ่านต้องตั้งคำถามอยู่ตลอดว่าเหตุการณ์ไหนเกิดขึ้นจริงบ้าง แล้วเหตุการณ์ที่ (คิดว่า) ไม่ได้เกินขึ้นจริงนั้นคืออะไรกันแน่” …อ่านต่อ
— Bonné
“ภาษาพลิ้วเหมือนลม กรุ่นกลิ่นอดีตสวย รวมถึงการบรรยายฉากอิโรติคที่เรียบๆ แต่ค่อนไปทางเพี้ยน รวมๆ แล้วมีเสน่ห์ดี” …อ่านต่อ
— ณขวัญ ศรีอรุโณทัย